8/16/2554

บลจ. กสิกรไทย เปิดตัว “กองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น” ชูผลตอบแทนปลอดภาษี 3.10% - 3.70%

บลจ. กสิกรไทย เปิดตัว  “กองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น” 
รับกระแสปลดล็อกคุ้มครองเงินฝากชูผลตอบแทนปลอดภาษี 3.10% - 3.70%   ประเดิม 2 กองทุนแรก 16-22 ส.ค.  นี้






บลจ.กสิกรไทย เร่งส่งน้องใหม่  “กองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น”  อายุ 3 เดือน และ 11 เดือน ขานรับกระแสลดวงเงินคุ้มครองเงินฝาก    ชูจุดเด่นล็อกเงินต้นให้ปลอดภัย ลงทุนในตราสารหนี้รัฐบาลไทยและเกาหลีใต้  พร้อมโอกาสได้ผลตอบแทน 3.10 – 3.70%  ต่อปี  ลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท 


 นายพัชร สมะลาภา  กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า จากการลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากตาม พ.ร.บ. คุ้มครองเงินฝาก เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยปรับลดการคุ้มครองเต็มจำนวนเหลือเพียง 50 ล้านบาทต่อบัญชี และจะปรับลดวงเงินคุ้มครองเหลือเพียง 1 ล้านบาทต่อบัญชีในวันที่ 11 สิงหาคม 2555  บลจ. กสิกรไทย จึงมีแผนเสนอขายกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้ผู้ลงทุนที่ต้องการลดผลกระทบจากการลดวงเงินคุ้มครองเงินฝาก  ตลอดจนรองรับความต้องการของผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ แต่ยังคงต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจ  โดยจะเสนอขาย    กองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้นตราสารหนี้ไทย 3 เดือน เอ  (KPPTF3MA)   และกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้นตราสารหนี้ต่างประเทศ 11 เดือน เอ  (KPPFF3MA)  ในวันที่  16-22  สิงหาคม นี้   โดยทั้ง 2 กองทุนที่จะเสนอขายประมาณการโอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.10% ต่อปี และ  3.70 % ต่อปี ตามลำดับ  คาดว่าจะรองรับเม็ดเงินได้ถึง 15,000 ล้านบาท  


“กองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น มีจุดเด่นที่เหนือกว่ากองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการอื่นๆ ของ บลจ.กสิกรไทย คือ มีความเสี่ยงต่ำกว่า  เนื่องจากกองทุนมุ่งคุ้มครองเงินต้นภายใต้นโยบายการลงทุนที่ กลต. กำหนดให้ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐของไทย  ตราสารหนี้ภาครัฐในต่างประเทศซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ใน    2 อันดับแรก  ตั๋วสัญญาใช้เงิน บัตรเงินฝาก และเงินฝากธนาคารพาณิชย์  โดยจะไม่มีการลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนเลย  ฉะนั้น ด้วยคุณภาพของตราสารหนี้ที่มีคุณภาพดีและมีความน่าเชื่อถือสูงที่กล่าวไป  จะช่วยให้  ผู้ลงทุนคลายกังวลในเรื่องความเสี่ยงที่เงินต้นจะสูญหายได้ในระดับหนึ่ง” นายพัชรกล่าว 


สำหรับกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้นตราสารหนี้ไทย  3 เดือน เอ  (KPPTF3MA)  มีขนาดกองทุน  10,000    ล้านบาท เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และเงินฝากธนาคารพาณิชย์     ด้านกองทุนเปิดเค เค คุ้มครองเงินต้นต่างประเทศ 11 เดือน เอ  (KPPFF3MA)   มีขนาดกองทุน 5,000 ล้านบาท  มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลประเทศเกาหลีใต้  พร้อมนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน  ทั้งจำนวน




นายพัชรกล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ แต่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากการลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน  บลจ. กสิกรไทย ตอบโจทย์การลงทุนด้วยการเสนอขายกองทุนเปิดเค           ตราสารหนี้ 6 เดือน เอซี (KFI6MAC) เป็นทางเลือกเพิ่มเติม  โดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย ตราสารหนี้ระยะสั้น ICBC สาขาซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย  เงินฝาก Bank of China สาขาฮ่องกง และเงินฝาก Agricultural Bank of China สาขาฮ่องกง  ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายที่ 3.40% ต่อปี  โดยจะเสนอขายในช่วงเดียวกันกับกองทุน KPPTF3MA และกองทุน KPPFF11MA ในวันที่ 16-22 สิงหาคม นี้ ด้วย


การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน


กองทุนเปิดเค เค คุ้มครองเงินต้น 11 เดือน เอ  (KPPFF3MA) และกองทุนเปิดเค ตรสารหนี้ 6 เดือน เอซี (KFI6MAC) มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน 


Download : KFI6MAC หนังสือชี้ชวนฉบับย่อ
                    KPPFF3MA หนังสือชี้ชวนฉบับย่อ